ระหว่างแดดเผาและฝนคะนอง

ฝอยฝนฟุ้งระเบียงเดินบ้านศิลปิน คลองบางหลวง เหมือนถูกขังในม่านน้ำ มันไม่เจ็บ แต่ก็น่ากลัวจะเปียกปอนจนเป็นปอดบวม

วันนี้เป็นวันที่สามที่เรากักขังตัวเองเพื่อคุมประพฤติ ใจเร็วไปไหม ทำอะไรตามใจไปหรือเปล่า สิ่งใดที่สำคัญกว่าและควรทำในตอนนี้

เราจับรถเมล์และรถลอยฟ้าจากบ้านสู่ย่านบางแค ในตรอกซอยที่อุดมด้วยอาหาร ไม่ต้องไปเผชิญโลกในเวลารัฐประหารมากนัก ไม่ได้กลัวปืน เท่ากับกลัวใจตัวเองที่ระอุร้อนด้วยความเกลียดชังและอัดอั้น
มีเพียงบทสนาทางโทรศัพท์กับรุ่นพี่ที่นับถือในยามค่ำแต่ละวัน ที่ทำให้ได้รับรู้ข่าวสารสำคัญประจำวัน เช่นว่า มีการยุบวุฒิสภา ใครโดนเรียกตัว ใครโดนจับถึงเคหสถาน มีการชุมนุมต่อต้านที่ไหน พร้อมกับได้ระบายความคิดเห็นที่ต้องปิดซ่อนเพื่อความมั่นคงของประเทศ ก่อนวางหูไปพร้อมเสียงถอนหายใจ
ป่วยการจะบ่นถึงแดดพฤษภาอำมหิต เราเดินผ่านซุ้มทหาร ปืนสะพายไหล่ห้อยลงชี้พื้นมิได้เจตนาทำร้ายพลเมือง การตกแต่งซุ้มผ้าใบเหมือนพรางตัวอยู่ในป่า หากแต่พยายามซ้อนเร้นอย่างไม่แนบเนียนยามเที่ยงวันอยู่ข้างป้ายรถเมล์ และต้นไม้ที่กทม. ปลูกไว้
“เขาพรางตัวจากอะไรนะ” เธอพูดด้วยความขัน แต่ก็สลับโหมดความคิด ขมวดคิ้วหยีตาหลบแดด “คงร้อนมากเลยเนอะ ชุดแบบนี้”
เรามองตามไป เห็นชุดเครื่องแบบเต็มยศที่ขัดแย้งกับสภาพอากาศ
สาย 81 แล่นเข้าป้าย ชีวิตดำเนินต่อไปตามล้อรถเมล์ และเสียงที่ใส่เหรียญเขย่า
บ่ายแล้ว ป่านนี้พี่ทหารอาจยืนอยู่ในม่านฝน มองรอบข้างไม่ค่อยเห็น เรามองไปก็พร่ามัว ต่างถูกกักขังในความเปียกแฉะ ชุดเครื่องแบบนั่นคงชุ่มน้ำ เว้นแต่จะมีเสื้อพลาสติกกันน้ำ (เราคิดว่าคงมี) 
ปืนเปียกน้ำจะยังคงใช้ได้ไหมหนอ เรานึกถึงสมัยเรียน ร.ด. ขุดคุ้ยความรู้ที่ฟังผ่านๆ เกี่ยวกับอาวุธปืน แต่ไม่พบ สิ่งเดียวที่ติดมาจากวินัยทหารคือการย่างเท้าซ้ายก่อนเสมอเมื่อออกเดิน กลายเป็นความเคยชินตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่แรกๆ รู้สึกฝืนแทบตาย เพราะถนัดขวา แต่ทำซ้ำไปก็กลายเป็นเรื่องที่ธรรมดาแบบไม่รู้ตัว

ฝนหยุดตก อากาศใสกว่าเก่า โต๊ะไม้ในบ้านศิลปินมีรอยน้ำชุ่ม มันซึมแล้วซึมอีกจนอาจมีความผุพังอยู่ภายใน

ครั้งนี้เราอาจจะผิดอีกก็ได้ เราคิด มองน้ำในคลองที่เริ่มปะทะแดด เหมือนปี 49 ที่เราก็คิดผิดแบบสุดลิ่มทิ่มประตู เคียดแค้นกับสิ่งที่อาจไม่ได้เกิดขึ้นจริงเลยด้วยซ้ำ
เราให้ข้อสรุปสั้นๆ ที่ดูขี้ขลาดไว้กับตัวเอง ว่าอย่ายึดมั่นในหลักการมากนัก เหมือนที่คนอื่นยึดมั่นกับความดีที่เราไม่รู้จัก จนทำให้เราเองขุ่นเคือง

นั่งสูดกลิ่นคลองหลังฝนซาเสียก่อน ดูแลใจตัวเองเสียก่อน
มีเรื่องอะไรบ้างที่ทำได้ในตอนนี้ และไม่มีทางเสียชีวิตไปเปล่าๆ

มันวางกองรอเราอยู่ตรงนั้น

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.