เราเห็นแววตาไม่ซื่อตรงในกระจกนั้น ไม่อาจไว้ใจแม้กระทั่งสิ่งที่พูดกับตัวเอง
ฉันหวังดีกับเธอ – แต่จริงหรือ
ง่ายเกินไป เรากำหนดเส้นแบ่งอาณาเขตผู้คนประเภทต่างๆ บอกว่าพวกเขาต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งๆ ที่อาจไม่ต่างกันเลยข้างใน มีเลือด มีเนื้อ กระดูก ลมหายใจ และกระเพาะที่หิวในบางเวลาระหว่างวัน
เราพยายามเลือกวงกลมวงใดวงหนึ่ง แล้วหวังว่าจะมีส่วนอินเตอเซคชันกับสิ่งที่เราพอใจในหลายๆ ด้าน
เมื่อจะขึ้นอายุ 24 เราเปิดศักราชใหม่ด้วยความรู้สึกว้าเหว่
เดินผ่านความฝันมาแล้วอย่างคนไร้หวัง
ไร้หวัง ไม่ใช่หมดหวัง
มองเห็นคนที่กระตือรือร้นกับโปรเจกต์ใหม่ๆ ตรงหน้า แล้วอิจฉาการมีความหวังแบบนั้น
นั่งรถเมล์แอร์สาย 510 รถชะลอช้า ตามก้นรถกระบะติดหลังคาคันหน้าที่มีฝุ่นเขรอะ กระจกหลังถูกปาดฝุ่นด้วยนิ้วมือเขียนว่า “ไม่มีประโยชน์”
รู้สึกวาบที่แผ่นหลัง
ฮึ .. เราไม่ได้ตามหาวิธีทำมาหากินในฝัน เท่ากับคุณค่าของสิ่งที่ลงมือทำ
คุณค่าทั้งกับคนวงรอบที่ใกล้ชิดที่สุดอย่างตัวเอง แม่ และน้องชาย
ขยายไปถึงคุณค่าที่มีต่อเพื่อน และสังคม
มีประโยชน์หรือเปล่า เราเฝ้าถามเกือบทุกจังหวะเบรกของรถกระบะดำคันหน้า
มีประโยชน์แน่หรือ?
เมื่อวานเราบอกใครคนหนึ่งว่า เป็นเรา เราคงทนทำสิ่งที่ไม่เห็นคุณค่าไม่ได้ ชอบไม่ชอบไม่รู้ แต่ถ้าเห็นแล้วว่าไม่มีประโยชน์กับใคร ก็คงขอวางมือ ก็จะเอากำลังใจที่ไหนไปทำ
แต่ในทางกลับกัน เราจะทุ่มพลังถ้าเห็นว่ามันมีค่า อย่างน้อยที่สุด ประโยชน์ที่ว่าก็อาจเป็น ตัวเงินที่จะกลับมาดูแลตัวเองและครอบครัวได้
สุดบังเอิญ ฌอง-มารฺคก็พูดเรื่องเดียวกันนี้ในนิยายเรื่อง ตัวตน หน้า 57-58 สรุปจบท้ายย่อหน้าว่าอาชีพแพทย์น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นมากที่สุด “และความก้าวหน้าทางเทคนิคส่งผลในทางลบน้อยมาก”
รถเมล์เบียดแทรกเลนข้างๆ เพื่อเข้าสู่ป้ายจอด ผู้คนกรูกันลงไป
เราอาจลดทอนตัวเองกลายเป็นโหนดส่งข้อมูล ที่เพียงรับมาแล้วถ่ายทอดต่อไปรอบทิศในช่วงเวลาแสนสั้น จดจำอะไรแทบไม่ได้ และพร้อมกันนั้น สิ่งที่รับมาก็ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ
ไม่ว่าจะอยู่ในวงการใดๆ
กดปุ่ม F5 ทุกทุกสามวินาที ค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ มันจำเป็นต้องจบอย่างนั้นหรือ
แต่เหมือนเดิม หน้าจอค้างอยู่ที่ 404
รถเมล์หมดระยะหรือยังหนอ
สิ้นวัน นั่งอยู่ริมแม่น้ำ เราจดข้อความลงในสมุดบันทึกสีแดง หลังจากที่แสงโพล้เพล้ไม่อาจทำให้อ่านหนังสือต่อไปได้