ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรานั่งเขียนบทความเกี่ยวกับการตื่นรู้ ต้องหาข้อมูล อ่านโน่นนี่มากมายเพื่อคัดเฉพาะส่วนที่ใช้ได้ส่วนเล็กๆ มาประกอบบทความ
นั่นทำให้เราได้รู้ว่า การทำสมาธิที่โรงเรียนของเรานั้นเขาเรียกว่า Transcendental Meditation (TM) หมายถึง การทำสมาธิไปพร้อมกับการท่องมันตรา ในที่นี้คือการท่องคำว่า “บาบานัม เควาลัม” โดยมีจังหวะเสียงเพลงแตกต่างกันไป (ลองกดฟังได้) ตอนเด็กๆ เราไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ตามประสาเด็กประถม ครูให้ทำอะไรก็ทำ (เป็นเด็กไทยในอุดมคติจริงๆ) เขาให้กอดครูก็กอด ให้เต้นก็เต้น ให้นั่งสมาธิร้องเพลงก็ทำ ตั้งใจเสียด้วย
แต่พอเราโตขึ้นหน่อย ดูเหมือนว่าครูจะเริ่มเข้าใจว่า ในหัวพวกเรานั้นมีคำถาม เขาก็เลยอธิบายเรื่องคลื่นสมอง ความจำ การเรียนรู้ ฯลฯ เพื่อที่จะโน้มน้าวให้เรายังเห็นประโยชน์ของมันและตั้งใจทำสมาธิแบบนี้ต่อไป ต่อให้มันจะดูตลกเมื่อเล่าให้เพื่อนต่างโรงเรียนฟังก็เหอะ
—
ถ้าใครเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กเรา ก็คงพอจะรู้ว่าเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เราปวดหลังหนักมากอย่างกับคนแก่ ไปไหนไม่ได้ นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ เพราะทุกความเจ็บปวดปลุกให้ตื่นกลางดึก ติดนีโอบันเจลที่หลังทุก 8 ชั่วโมง จนกลิ่นเมนทอลฟุ้งไปทั่วห้อง
ขณะที่เรานอนอยู่กับความเจ็บปวดนั้นอย่างไร้ทางเลือก ปล่อยให้เวลาผ่านไปนิ่งๆ 3 วันเต็ม ไม่มีการผลิตงานใดๆ ออกมา นั่นกลับเป็นช่วงเวลาแห่งการทบทวนตัวเอง
ความเจ็บหนอ-ปวดหนอ นั้น มันคงทำหน้าที่คล้ายๆ มันตรา บาบานัมเควาลัมกลายๆ
มันบอกให้เราอยู่ตรงนั้น จ้องมองความเจ็บปวดเข้าไปสิ เราอยู่บนที่นอนนี้ ไม่ใช่หน้าไมโครซอฟเวิร์ดหรือกลางสยาม เราอยู่กับความเจ็บปวด ไม่ใช่ความหวังว่ามันจะหาย
จากวิกฤตน่าอึดอัดนั้น กลายเป็นว่า เราอ่านหนังสือได้จบเล่ม (สักที) อ่านบทความในอินเทอร์เน็ตอย่างมีสมาธิ เขียนบทความยาวสิบหน้าจำนวนสองชิ้นได้ในเวลาน้อยกว่าที่คิด กิจกรรมเหล่านี้ต้องมีจิตตั้งมั่นกับตัวเองมาก
ความเจ็บปวดดึงเรากลับมาอยู่กับร่างกายตัวเอง กลับมาอยู่กับตอนนี้ ที่นี่
เพราะไม่มีที่ไหนให้เราไปอีกแล้ว ความหวังใดๆ ไม่ได้พาเราไปไหน เวลาต่างหาก แต่เวลานั้นก็อาจไม่ได้พาเราไปในที่ที่ต้องการเสมอไป เราทำได้เพียงแต่มองดู
วันนี้เราอายุเพียงยี่สิบต้นๆ แต่การขาดสติเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันมันก็สะสมความป่วยให้กับร่างกาย (แผ่นหลัง) และจิตใจ แล้ววันหนึ่งมันก็ถล่มล้มลงมา กลายเป็นคนเดินไม่ได้ชั่วคราว
เราต้องทบทวนแล้ววว่า ในระหว่างทางของการเสื่อมสลายอย่างช้าๆ นี้ เราจะหายใจด้วยจังหวะอย่างไร
มีรอยยิ้มเบิกบานบนใบหน้า หรือแววตาเกรี้ยวกราดต่อโลก
เราต่างรู้ว่า เราชอบสีหน้าแบบไหนของตัวเองในกระจก
เราชอบรอยยิ้มยิงฟันของตัวเอง
เมื่อลืมตาขึ้นทุกครั้ง ครูจะบอกเราว่า บาบานัม เควาลัมแปลว่า ความรักมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
เออ เราโตมาแบบนี้