ซินแท็ก21st

เรากำลังทำงานเอกสารที่ไม่จำเป็นอยู่หรือเปล่านะ

คีย์ตัวเลขรายงานบางอย่างจาก email ลง excel ที่บันทึกฐานข้อมูลเดิมไว้ หาใบเสร็จกระดาษจาก 6 เดือนก่อนที่กองสุมกัน แล้วก็ถอนหายใจเพราะหาไม่เจอ

ไปฝึกงานทนายก็นั่งป้อนข้อมูลคดี เลขดำ เลขแดง ชื่อโจทก์ จำเลย รายละเอียดที่คล้ายๆ กันเป็นสิบสิบคดี แก้จำนวนทุนทรัพย์ไปเรื่อยๆ

ถามตัวเองอีกครั้ง

“ในฐานะมนุษย์ศตวรรษที่ 21  เราต้องทำงานพวกนี้เองอีกหรือ”

แต่การถามแบบคนดื้อ (และแสนขี้เกียจ) แบบนี้มันคงไม่นำไปสู่อะไร เมื่อมันไม่มีออพชันอื่นให้เลือก ในเมื่อเราไม่รู้ว่าเทคโนโลยีทำอะไรได้บ้าง หรือแม้เราพอจะรู้ว่ามันทำได้ แต่ไม่รู้ต้องสั่งมันอย่างไร

สองสามอาทิตย์ก่อน  ขณะที่เรานั่งอ่านบทความผ่านแอพ pocket ในโรงอาหารศาลยุติธรรม สลับกับนั่งมองดูคนใส่สูทหิ้วกระเป๋าเอกสารเดินผ่านไปผ่านมา เราได้อ่านบทความของบรรณาธิการชาวอเมริกันคนหนึ่ง เธอเล่าว่าเหล่าบรรณาธิการมากมายใช้เวลาไปกับ “งานธุรการ” จุกจิกมหาศาลในการทำหนังสือแต่ละเล่ม รวมๆ แล้วอาจกินเวลามากกว่าที่ใช้ไปกับการบรรณาธิกรเนื้อหาหนังสือจริงๆ (อย่างที่ชื่อตำแหน่งบ่งบอก) เสียอีก

เพื่อนบรรณาธิการในแวดวงหนังสือคงจะยิ้มมุมปาก หัวเราะ หึๆ แล้วก็ยอมรับชะตากรรมว่า ก็เออไง คิดว่าบรรณาธิการแค่นั่งแก้คำให้ไหลลื่นอย่างเดียวหรือ มันก็ต้องมีบันทึกโน่นนี่ ส่งข้อมูล ติดต่อผู้คน ทำใบเบิกจ่าย ฯลฯ

เราเสียดาย เพราะเรารู้ว่าคนคนหนึ่งมีศักยภาพในเรื่องบางเรื่องมาก แทนที่จะลงทุนเวลาไปกับเรื่องที่ปล่อยให้คนอื่นทำแทนได้ หรือแม้แต่ให้คอมพิวเตอร์ทำแทนได้ (ไม่เสียเงินจ้างด้วยเอาสิ)

แต่บรรณาธิการสาวในบทความไม่ได้ทำแค่บ่น แบบเรา

เธอไปเรียนเขียนโปรแกรม ถลกแขนเสื้อ แล้วก็เอาวะ! ถึงจะเคยห่วยคณิตศาสตร์ แต่ไม่มีอะไรเรียนรู้ไม่ได้ เธอสำทับให้กำลังใจอีกว่า เอาเข้าจริง มันแทบไม่ต้องใช้เลขเลย ใครๆ ก็เรียนได้ และเธอเชียร์ให้เรียน

และเธอก็เชื่อมั่นว่าไม่มีโปรแกรมเมอร์คนไหนเข้าใจอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ได้ดีไปกว่าเธอ เข้าใจดีจนรู้ว่ามีอะไรที่ต้องการให้คอมฯ ทำแทนได้บ้าง วงการธุรกิจหนังสือมันจึงจะพัฒนาด้านอื่นๆ ได้เต็มประสิทธิภาพกว่านี้

คร่าวๆ ก็คือ สุดท้ายบทความนี้ก็นำไปสู่การขายแอพพลิเคชันสำหรับบรรณาธิการ แต่สิ่งที่เราได้จากบทความ ไม่ใช่การกระตือรือร้นจะซื้อแอพ แต่เราก็เลือกจะลงทุนกับตัวเอง

หลังจากสัมภาษณ์โปรแกรมเมอร์หนุ่มลงคอลัมน์ของนิตยสารที่เขียนให้ประจำ เราก็ลงคอร์สเขียนโปรแกรมระดับเบสิคกับเขาทันที สมัครเรียนทั้งๆ ที่แทบไม่รู้อะไรเลย แต่น่าจะเป็นเพราะบทความที่ว่านั้นรุนหลังบอกว่า ทำเลย! ตอนนี้! ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้จะทำตอนไหน

ก็อย่างที่เดาได้ เราเริ่มจากพื้นฐานที่สุด เหมือนหัดเขียน ก.ไก่ แต่ฝันไกลไปถึงการเขียนหนังสือเล่มหนาในอนาคต

แต่ระหว่างทาง เกร็ดความรู้ ระบบคิด ฯลฯ เล็กๆ น้อยๆ ที่ได้มา ก็ทำให้เราเอาไปปรับกับเครื่องมือพื้นฐานที่มีอยู่เดิม แล้วก็คิดว่า เอ้อนะ… ที่ผ่านมาเราใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ไปกับเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน

ไม่แน่ใจว่าจากนี้ เราจะมีโอกาสเขียนโปรแกรมได้จริงๆ จังๆ หรือเปล่า หรืออาจจะกลายเป็นอีกภาษาที่ได้แต่ยิ้มแหะๆ ว่า อ๋อ รู้บ้างนิดหน่อย

แต่อย่างน้อยที่สุด จากการอ่านข้อมูลเพิ่มเติม เรียนรู้เองในเนต ก็ทำให้รู้ว่ามีคนขี้เกียจที่จะทำงานซ้ำๆ ซากๆ แบบเรามากมาย แต่ไม่ขี้เกียจเกินไปที่จะเรียนรู้โค้ด สร้างชุดคำสั่งออกมาทำงานที่ตัวเองเห็นว่าง่ายเกินกว่าจะต้องลงแรงไปกับมัน แถมเอามาแชร์กันสนุกสนาน

“ทำไมไม่ซื้อโปรแกรมสำเร็จรูป”

ใครหลายคนอาจถาม

เราชี้มือไปที่สมาคมชุมชนแลกเปลี่ยนภาษาโค้ดเหล่านั้น แล้วก็คิดว่าคำตอบก็คือ การที่เราทำอะไรออกมาเองได้ มันก็น่าสนุกและทรงพลังกว่าไม่ใช่หรือ

นี่ก็แค่อีกภาษาที่เราต้องเรียนรู้เพื่อพูดคุยกับคนในวันพรุ่งนี้

SyntaxError: invalid syntax

อืม… แม้จะต้องใช้เวลาอีกสักพักก็ตาม

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.