เมื่อวันศุกร์เราไปร่วมงานเทศกาลเหล้าเกาหลี ซึ่งหมายถึงเครื่องดื่มมึนเมาอันหลากหลาย ทั้งโซจู มักกอลลี หยักจู (อีกชื่อคือช่องจู) และไวน์ เรียกรวมๆ ว่าเป็น Sool Festival
ตอนแรกลงทะเบียนกับ Fundaykorea ว่าจะไปเวิร์กช็อปทำมักกอลลี ซึ่งรสชาติเหมือนสาโทของไทย แต่ปรากฏว่าคนมาร่วมงานกว่า 60 ล้นจากจำนวน 30 คนที่เขาจะรองรับได้ (ได้ไง?) เขาก็เลยให้พวกเราไปเดินดูงานกับพี่สุดหล่อคนนี้แทน คอยบรรยายประวัติเครื่องดื่มมึนเมาแต่ละอย่าง น่าเสียดายที่อาจเป็นเพราะผู้จัดงานไม่ได้เตรียมตัวให้ดีมาก่อน อุปกรณ์ขยายเสียงที่เล็กจิ๋วทำให้ได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ยังดีที่ผู้บรรยายมีความเป็นมืออาชีพแล้วก็เล่าเรื่องได้น่าสนใจมาก คอยชี้ชวนให้เราชิมเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ตามบูท
เราได้คูปองอาหารมา 10,000 วอน สามารถจิบชิมเหล้าได้ทุกบูท ซึ่งบอกเลยว่า ทิพย์ๆๆๆๆๆๆ แต่ราคาก็ทิพย์เช่นกัน ก็เลยชิมเป็นหลัก ซื้อมาแค่ของ Hangang Brewery ที่ทำขวดสไตล์โมเดิร์น เป็นยี่ห้อของคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ เพราะดูผนวกเครื่องดื่มพื้นบ้านเข้ากับแบรนดิ้งเท่ๆ พอเข้าไปดู IG ก็มีพาไปดูทุ่งนา ต้นกำเนิดข้าวที่เอามาหมักกัน
สำหรับชาวเกาหลี ก็เหมือนที่เราเห็นตามซีรีส์ เขาชูเหล้าเบียร์เป็นวัฒนธรรมที่ภาคภูมิใจ ไม่เขินที่จะเปิดเผยตัวว่าเป็นสังคมนักดื่ม งาน Korean Sool Grand Festival จัดโดยกระทรวงเกษตร อาหาร และชนบทของเกาหลี (Ministry of Agriculture, Food and Rural Affairs) สนับสนุนให้ผู้ผลิตท้องถิ่นเอาเหล้าชุมชนมาจัดแสดงและประกวด ในงานนี้เลยมีหลากหลายรสชาติมาก มีทั้งกลิ่นข้าวนวลๆ แบบตาพริ้มและรสเปรี้ยวแทบจะเป็นโยเกิร์ตจนทำให้หน้าเหยเก บางบูทเป็นโซจูที่ทหารในสงครามดื่มกัน (แหนะ มีสตอรี่) พอชิมแค่จิบเล็กๆ ก็รู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ไหลลงไส้ บางชนิดก็เพิ่มมูลค่าไปด้วยการผสมโสมเกาหลีกลิ่นแรง ที่ดมแล้วดูเฮลตี้
จะเห็นว่ามีแผนที่การท่องเที่ยวสำหรับคนขี้เมาด้วย เผื่อใครอยากวางแผนทัวร์เกาหลี


มักกอลลี หยักจู โซจู ล้วนเกี่ยวโยงกัน เป็นลำดับขั้นของความใส มักกอลลีมักมีความข้นของข้าวที่หมักตกตะกอนอยู่ข้างใต้ หยักจูคือการนำเฉพาะส่วนน้ำใสๆ ที่ตกตะกอนไปแล้วออกมา แล้วเราก็พบว่าเราชอบแบบนี้ที่สุด เพราะมันยังเหลือความหอมแต่ไม่ข้นเกิน และไม่ใสกิ๊งแบบโซจูที่ผ่านการกลั่น
ความสนุกก็คือ เครื่องดื่มชนิดนี้ชื่อ หยักจู (หยัก แปลว่า ยา) เพราะในสมัยหนึ่ง พระราชาในอาณาจักรโชซอนเข้มงวดเรื่องการกักตุนอาหาร ขุนนางที่อยากเหล้า ต้องอ้างว่าตัวเองป่วยเพื่อจะได้ดื่มเหล้าเป็นยา แล้วก็ตุน ‘ยา’ เหล้านี้เอาไว้เต็มเลย ทั้งที่ชื่อเรียกโดยทั่วไปคือ ช่องจู แต่ปัจจุบันสองชื่อนี้เรียกสลับกันไปแล้วแต่ถนัด

แม้ว่าเราจะไม่ได้ที่นั่งในการเวิร์กช็อปทำมักกอลลี แต่โชคดีมากที่ในถุงผ้าที่เขาแจก มีของชำร่วยเป็นขวดเหล้าสีเขียวลายหน้ากากของอันดงโซจู ซึ่งหลายๆ คนไม่ได้ และยังได้เจอยูริ เกิร์ลเจนเนอเรชันแบบแวบๆ สัก 2 วิ
ความโชคร้ายคือ ตอนนั่งรถเมล์กลับบ้านเป็นเวลาที่คนเลิกงานพอดี อากาศหนาว หน้าต่างรถเมล์ปิดสนิท เสื้อกันหนาวหนาจนร้อน (อาจเพราะแอลกอฮอล์ด้วย) รถแน่นมากจนหายใจไม่ออก ก็เลยเป็นลมหน้ามืด เซล้มลงไปเลย