บลูเบอร์รีสามลูกหล่นกลิ้งลงจากหน้าเค้กเมื่อเราปักส้อมลงไปที่ขอบแข็งกรอบแล้วทำให้มันกระเดิดไปทั้งชิ้น
เราหัวเราะพร้อมพี่ข้าว
การเดินเข้ามาในย่านย็อนฮีดง (연희동) กล่อมอารมณ์ให้เราสบายใจจนยิ้มให้กับเรื่องง่ายๆ แม้กระทั่งบลูเบอร์รีสามลูกหล่นกลิ้งกลุกๆ ในร้านกาแฟคูลๆ
อารมณ์ดี ยิ้มเมื่อเห็นอาคารนั้นสวย ต้นไม้บ้านนั้นออกใบเขียวสดใหม่ หลังรั้วของอีกอาคารใหญ่มีใบไม้ที่ยังสีแดงเข้มตระหง่านสงบ สถาปัตยกรรมแบบที่เห็นตาม art4d โผล่มาสลอนทักทายอยู่ตามทาง
แสงยามห้าโมงที่เรารักมาตลอดเมื่ออยู่ไทย ตอนนี้มันโผล่มาตอนหกโมงในฤดูใบไม้ผลิของโซล สาดเฉียงไล้ความอุ่นไปบนผนังอิฐแดงและผนังปูนเปลือย อาคารย่านนี้มีทั้งแบบดั้งเดิมอย่างร้านขายหมูที่ใช้ฟอนต์สีสดและหน้าร้านฉายไฟชมพู ดูเป็นกิมมิคของร้านขายหมูทุกที่ สลับกับอาคารดีไซน์สะดุดตาที่โผล่มาให้เห็นถี่เป็นพิเศษ

เมื่อเดินเข้ามาในซอยนั้น เราถึงกับต้องรำพึงว่า …หูย ย็อนฮีดงมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ร้านกาแฟที่เรานั่งกินอเมริกาโนร้อนชงจากเมล็ดประจำวัน (กาแฟอินโดนีเซีย) เคล้ากับบลูเบอร์รี่ชีสเค้กอยู่นั้น ชื่อร้าน Noah’s roasting และพอเหมาะพอดีกับชื่อร้าน กรอบรูปบนหน้าต่างข้างๆ ที่นั่งของเรามีรูปวาดพระเยซูหันหน้าเข้าหาฝูงแกะออกแนวการ์ตูนน่ารักๆ

พี่ข้าวดื่มลาเต้เย็น (ไอ-สึ-คั้บ–เพ่–ลัต–เต้ะ เราพยายามออกสำเนียงเกาหลีอยู่หลายครั้งก็ยังไม่เนียน) กาแฟหอม แต่กลับชอบแก้วของเรามากกว่า ทั้งที่ปกติไม่ชอบกาแฟดำ
ซอยนี้ห่างจากมหาวิทยาลัยย็อนเซไปแค่สองป้าย นั่นหมายความว่าจากที่พักของเราที่มหาวิทยาลัยอีฮวา ก็อยู่ห่างอีกไปแค่ไม่กี่สิบนาที บวกเวลาเดินด้วยแล้ว

เราเพิ่งรู้ว่าชื่อของมหาวิทยาลัยย็อนเซ ก็มาจากชื่อย็อนฮีดง เกิดจากการที่มิชชันนารีคนหนึ่งมาตั้งมหาวิทยาลัยชื่อวิทยาลัยย็อนฮี กับมิชชันนารีอีกคนมาตั้งโรงพยาบาลและวิทยาลัยแพทย์ ชื่อ Severance hospital และ Severance medical school ทั้งสองคนนี้กลายเป็นรากฐานสำคัญของการศึกษาและเมื่อมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลมารวมกันก็กลายเป็นชื่อ ย็อน (ย็อนฮี) + เซ (severance) อันนี้บังเอิญมาจากอาจารย์ที่สอนวันนี้เล่าให้ฟัง

แสงอาทิตย์ยังค้างเติ่งทั้งที่เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว เราเข้าไปกินพาสต้าร้าน Maudi ตามที่แอพฯ บอกว่าคนให้ดาวเยอะ

คนเต็มร้าน เหลือที่นั่งแค่สองสามโต๊ะ ร้านเปิดไฟแสงอุ่นสลัว พนักงานเดินมารับออร์เดอร์อย่างไว พี่ข้าวสั่ง Risotto ซีฟู้ด ส่วนเราสั่งสปาเกตตี้หอยเชลล์ซอสเพสโต พอสั่งปุ๊บ สักพักคนก็ทยอยเช็คบิลออกจากร้านเหมือนนัดกัน 555


แค่เพียงหอยเชลล์ก้อนใหญ่ๆ เข้าปากเราเท่านั้น เราถึงกับต้องหลับตารับรสความหวานที่มันแผ่ไปตามลิ้นอย่างซาบซึ้งจนพี่ข้าวต้องแซว ถึงจะไม่ใช่ร้านมิชลินหรูหราที่ไหน แต่นี่คือความหรูของชีวิตที่ได้รับทีนึงก็สรุปได้เลยว่าวันนี้เป็นวันที่ดีนะ
สวัสดีย็อนฮีดง

น่ารักมาก
ถูกใจถูกใจ