ปูซานวันแรก หอยสดรสแปลกและหมู่บ้านคัลเลอร์ฟูล

ไม่รู้ทำไม พอตอนใกล้ๆ ปิดเทอม ชื่อของปูซานมักติดอยู่ในหัวและโพล่งออกมาเสมอเมื่อปรึกษาวางแผนทริปต้อนรับปิดเทอมกับพี่ข้าว

อาจเป็นเพราะความทรงจำเกี่ยวกับการเดินทางที่มาพร้อมกับภาพยนตร์ Train to Busan หรืออาจเพราะใจอยากจะกินอาหารทะเลสดๆ และปูซานดันเป็นเมืองชายทะเลแห่งเดียวที่สมองเราจะเชื่อมโยงอาหารทะเลเข้ากับสถานที่ท่องเที่ยว (ทั้งๆ ที่โซลก็มี)

พี่ข้าวจองตั๋ว KTX เดินทางจากสถานีโซล-ปูซานผ่านแอปพลิเคชันของรถไฟ ไม่จำเป็นต้องถือตั๋วกระดาษ เพียงเข้าไปยืนรอรถไฟให้ถูกราง ขึ้นไปให้ถูกขบวน (ตามที่แสดงในแอปฯ) แล้วขึ้นไปนั่งให้ถูกตำแหน่งที่จองไว้ เท่านี้ก็เดินทางได้แล้ว พนักงานจะมาคอยเดินตรวจตราดูอีกทีว่ามีที่นั่งไหนที่ควรว่างแต่ดันมีคนมานั่งในแต่ละสถานี ก็จะต้องสอบถามกันต่อไป สำหรับคนที่ซื้อตั๋วมาถูกต้องก็ปลอดกังวล แค่พาตัวเองไปถึงให้ทันเวลาก็พอ

บรรยากาศที่คุ้นเคยจากในหนัง แต่ในความจริง ช่วงที่รถไฟแล่นผ่านอุโมงค์ ไฟในรถไม่ได้ดับไปด้วย เราก็งงว่าถ้ามีซอมบี้จริงๆ จะใช้แผนไหนหลบหลีกดี

ในแต่ละตู้จะมีห้องน้ำที่สะอาดใช้ได้ มีเครื่องเป่ามือและสบู่ และมีเครื่องกดขนมเครื่องดื่มอยู่ตามทางเชื่อมของบางตู้โดยสาร เท่านี้ก็สบายใจได้ว่าตลอด 2-3 ชั่วโมงกว่า (แล้วแต่ขบวน) ที่เราเดินทางไปปูซาน จะไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้

เนื่องจากวันแรกที่เรามา ที่พักเราอยู่ไกลถึงหาดแฮอุนแด ห่างจากสถานีรถไฟปูซานตั้ง 1 ชั่วโมง จะให้เอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมก่อนแล้วค่อยถ่อกลับมาเที่ยวย่านนี้ก็ไม่คุ้ม เลยได้ใช้บริการตู้ล็อกเกอร์ฝากของที่มีอยู่ตามสถานีรถไฟต่างๆ อย่างตู้นี้เราจ่ายกันไปแค่ 2,000 วอน (ไม่ถึง 60 บาท) ฝากเป้ได้ตั้งสองใบในตู้เล็ก ซึ่งเป็นไซส์พอดีกับกระเป๋าที่อนุญาตให้เอาขึ้นเครื่องบินได้

ฝากกระเป๋าเสร็จก็ไปเดินเล่นที่ตลาดปลาจากัลชี ด้วยความที่ช่วงนี้นักท่องเที่ยวยังน้อย เราเองก็เดินงงๆ ไม่รู้ว่ามาแล้วต้องไปเดินหรือกินอะไรตรงไหน ตอนเดินพรวดเข้าไปในตลาดปลาติดแอร์ คนขายจากซุ้มต่างๆ เลยปรี่เข้าหารอบตัวจนตั้งตัวไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็เลยออกมานอกตึกแล้ว เลือกไม่ถูกว่าจะกินร้านไหน ราคาก็ไม่ชัด

สุดท้ายเลยเข้ามากินร้านนี้แบบงงๆ สั่งหอยสดไปสองอย่าง คือหอยมองเก สีส้ม แบบที่เคยเห็นในรายการโทรทัศน์ และหอยชอนบก ที่น่าจะเป็นหอยเป๋าฮื้อแบบที่เราเรียกๆ กัน กับปลาหมึกดิบๆ ที่ยังดิ้นๆ อยู่ หน้าตามันช่างสดชื่นยิ่งนัก แต่พอกินเข้าไปแล้ว หอยชอนบกกรุบๆ แต่กลับไม่หวานละมุนเหมือนตอนกินแบบต้ม ออกจะคาวและจืด หอยมองเกก็กลิ่นทะเลแรงมาก เหมือนกลิ่นสาหร่ายที่อยู่ตามโขดหิน แต่บางคนอาจจะชอบเพราะมันสดชื่นสมกับเป็นอาหารทะเลจริงๆ ส่วนปลาหมึกค่อนข้างเหนียว

หากลองดูกระดานราคาจะพบว่าแต่ละรายการราคาแรงไม่น้อย ราคาอย่างละเฉียดพันหรือพันต้นๆ การจะลองอะไรอย่างละนิดละหน่อยเลยเป็นเรื่องเพ้อฝัน 555 เราพบว่าคราวหน้าต้องทำการบ้านเรื่องร้านอาหารมามากกว่านี้ ต่อให้ทำใจมาแค่ไหนว่าไม่งกกับเรื่องกิน แต่เจอราคาแบบนี้ก็ต้องเบาๆ หน่อยนึง

ปูซานเป็นเมืองที่มีสีพิเศษ ไม่ได้จัดจ้าน ออกแนวพาสเทลแต่ก็ไม่ได้ชวนฝัน เป็นเมืองที่คึกคักแบบไม่เก๊ก ตึกหลายๆ ตึกไม่ได้สวยเนี้ยบแบบในโซล

อย่างคัมช็อน หมู่บ้านวัฒนธรรมที่เราเดินขึ้นไปนี้ มองเผินๆ จากภาพถ่ายอาจดูไม่มีอะไร แต่เมื่อเอาตัวของเราเข้าไปอยู่ท่ามกลางบ้านหลากสีนั้นแล้ว กลับรู้สึกบรรยากาศเป็นมิตรและโอบอุ้มเราแบบประหลาดๆ ยิ่งเมื่อมองด้วยตาเปล่าตัดข้ามผ่านชีวิตหลากสีสันในกล่องสี่เหลียมเหล่านั้นเข้าไปสู่ทะเลที่อยู่สุดขอบฟ้า มันคือชีวิตที่น่าประหลาดใจว่าอะไรกันหนอที่ทำให้ความเป็นเมืองเติบโตแผ่ขยายออกมาจากแหล่งน้ำได้อย่างมีชีวิตชีวาแบบนี้

ตอนแรกแวะร้านนี้ ชื่อร้าน 계단위푸른집 (คเยดันวี พู่รึนจิบ) เพราะอากาศร้อน ไม่ได้คาดหวังรสชาติกาแฟมากเนื่องจากดูหน้าตาเหมาะกับการถ่ายรูปมากกว่า แต่เราว่าโอเคเลยนะ ข้างบนเป็นสายไหม ข้างล่างเป็นลาเต้เย็น กินดับร้อน ชั้นบนของร้านนี้ก็เป็นดาดฟ้าที่ขึ้นไปนั่งกินลมชมวิวหรือถ่ายรูปได้

เสน่ห์ของปูซานคือลมทะเลที่พัดโบกมาเรื่อยๆ สบายใจสบายตัวไปโดยปริยาย แต่แดดร้อนก็ว่ากันไปอีกเรื่อง

จากหมู่บ้านคัมช็อน เราก็นั่งรถเมล์กลับลงมามุ่งหน้าสู่นัมโพดง รถเมล์ไต่ลงเขามาเรื่อยๆ เห็นหลากชีวิตที่แน่นขนาบอยู่สองข้างถนน จนมาถึงย่านช็อปปิ้งแห่งนี้

เราไม่คิดจะซื้ออะไร จะหาอะไรกินก็ยังอิ่มท้องจากอาหารทะเลมื้อกลางวันอยู่ แต่สิ่งที่สะดุดตาคือป้ายประทับรอยฝ่ามือเหล่านี้ ที่เป็นของทั้งนักแสดงและผู้กำกับชื่อดังซึ่งเดินทางมาร่วมงาน Pusan International Film Festival ในปีต่างๆ อย่างในรูปนี้เป็นของคิมคีด็อกและอีมันฮี เดินอ่านชื่อและดูรูปฝ่ามือของแต่ละคนไปก็เพลินดี ในวันที่สามของทริป เรายังได้ไปชม Busan Cinema Center ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลนี้ด้วย

พอเดินเล่นเสร็จ เราก็ไปหยิบกระเป๋าจากล็อกเกอร์ เดินทางไกล 1 ชั่วโมงมุ่งหน้าสู่หาดแฮอุนแด! (ตอนต่อไป)

แผนที่ของทริปนี้ ปักหมุดไว้ทั้งสถานที่ที่ได้ไปและตั้งใจว่าจะไปคราวหน้า https://goo.gl/maps/hLhYkjE3xb66xFTJA ใครขี้เกียจคิดก็ไปตามนี้ได้เลย

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.