เรื่องของเรื่องก็คือหลักสูตร GSIS ของอีแดที่เราเรียนอยู่ต้องการผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษเพื่อใช้ประกอบการจบ ป.โท เขาให้ใช้ผลจากการสอบได้หลายเจ้า ทั้ง TOEIC, TOEFL, IELTS หรือการสอบวัดระดับของสถาบันในเกาหลีเองก็ยังได้ ให้ยื่นก่อนหมดเขตแต่ละเทอม
ในเมื่อ TOEIC นั้นเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดในบรรดาตัวเลือกที่เราคุ้นเคย เราก็เลยเลือกสอบที่นี่ซะเลย ด้วยความมั่นใจว่าสอบที่ไหนก็เหมือนกัน ในเมื่อมันเป็นการสอบมาตรฐานระดับสากล แล้วที่เคยสอบที่ไทยก็ได้คะแนนเกินเกณฑ์ที่ภาควิชานี้กำหนดไว้ ก็เลยไปสอบแบบตัวปลิว หวังกินบุญเก่า (ที่หวังว่าจะพอมีเหลืออยู่) ก่อนที่ภาควิชาจะออกเกณฑ์ใหม่ซึ่งอาจจะทำให้ใช้คะแนน TOEIC ไม่ได้
แต่พอไปสอบวันนี้แล้ว บอกได้เลยว่า “อย่าหาทำ” ถ้าคุณไม่เก่งภาษาเกาหลี มีเหวอแน่ๆ เหมือนเรา
แรกเริ่มเลย เราสมัครสอบผ่านเว็บของ YBM สถาบันติวและจัดสอบภาษาอังกฤษที่เรานั่งรถเมล์ผ่านบ่อยๆ เนื่องจากเบราว์เซอร์ Chrome ของเราแปลภาษาอัตโนมัติ เราก็เลยสมัครสอบในหน้าเว็บที่เป็นภาษาเกาหลีล้วนได้อย่างง่ายดาย … แม้จะรู้สึกแหม่งๆ ก็เถอะว่าจัดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ แต่ไหงไม่มีภาษาอังกฤษให้คนต่างชาติอ่านบ้างเลย
สมัครมาแล้วเขาก็ให้ปริ๊นใบยืนยันการสมัครออกมา ซึ่งเราก็พกเผื่อไว้ แต่ไม่ได้ใช้จริง เพราะสิ่งที่เขาตรวจมีแค่บัตรประจำตัว หรือเอเลี่ยนการ์ด (ARC) แต่พกไว้ก็อุ่นใจไม่เสียหาย เผื่อเกิดความผิดพลาด

เราเลือกสนามสอบในเขตใกล้บ้านใน Mapo-gu ซึ่งก็คือโรงเรียนมัธยมชินซู (신수중학교) เดินทางด้วยรถเมล์ประมาณสี่ป้ายบวกเดินเท้าอีกนิดก็ถึง แถมเป็นการสอบเช้าวันอาทิตย์ที่ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด
ตอนเช้าวันสอบ ก่อนออกจากบ้าน เมสเสจจาก YBM เข้า KakaoTalk ว่าสอบห้องอะไร เลขที่นั่งอะไร ซึ่งเป็นข้อมูลที่เพิ่งรู้วันสอบนั้นเลย เนื่องจากในใบยืนยันการสมัครจะบอกแค่เลขประจำตัวสอบ
แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นจนได้ เพราะเราเข้าใจไปเองว่าห้องสอบจะมีดินสอให้ จริงๆ คือต้องเตรียมเครื่องเขียนไปเอง พี่ข้าวเพิ่งเช็กให้ในคืนก่อนสอบ เพราะเราดันตอบว่าไม่แน่ใจ 555 ตอนเช้าตื่นมาตาลีตาเหลือกเดินหาดินสอในร้านสะดวกซื้อ 3-4 ร้านใกล้บ้านก็ไม่เจอ โคตรแปลกใจ รู้สึกจ๋อยและตื่นเต้นจนต้องไปเข้าห้องน้ำในรถไฟฟ้าใต้ดิน สุดท้ายก็ปลงว่า เอาน่า นั่งรถเมล์ไปให้ถึงสนามสอบก่อน ค่อยหาเอาแถวนั้น ไม่งั้นเดี๋ยวสาย
แล้วก็มีจริงๆ ใน GS25 ตรงสถานีรถไฟใกล้โรงเรียนชินซูมีดินสอ 2B แพ็คมากับกบเหลาเหมือนรู้ใจ รอให้ไปนั่งเหลาเอง และพอเดินไปถึงหน้าโรงเรียนก็มีคุณน้าผู้หญิงยืนขาย 2B ที่เหลาแหลมเปี๊ยวมาเรียบร้อย ยางลบ รวมทั้งนาฬิกาอนาล็อกราคาถูกอยู่หน้าทางเข้าโรงเรียน คือมีทุกอย่างให้เลย! ถ้าเธอลืม และเป็นผู้เข้าสอบไร้วินัยแบบฉัน

โชคดีที่เผื่อเวลาไว้เยอะ ตรงทางเข้าอาคารสอบ เราต้องต่อแถวแบบเว้นระยะห่างเพื่อวัดอุณหภูมิร่างกายว่าไม่เป็นไข้และเช็ดเจลล้างมือ ก่อนได้รับอนุญาตให้เดินขึ้นอาคาร ตามมาตรการในช่วง COVID-19 ระบาด
เราเดินขึ้นบันไดที่มีป้ายกำกับทุกชั้นว่าชั้นนั้นมีห้องสอบเลขที่เท่าไรบ้าง ชั้นนึงจัดสอบราวๆ 5 ห้อง เราอยู่ห้องที่ 13 เลยได้ขึ้นไปถึงชั้นสี่ ป้ายกำกับเลขหน้าห้องชัดเจน มีโลโก้ TOEIC ครอบทับป้ายเลขห้องเรียนเดิมของโรงเรียนไปเลย เพื่อกันเราสับสน
หน้าห้องสอบมีผังที่นั่งให้ตรวจดูก่อนเดินเข้าไป เราก็แค่อ้างอิงจากเมสเสจ KakaoTalk ดูว่าชื่อเราตรงกับในผังนั้นไหม แล้วเข้าไปนั่งให้ถูกที่ จะเห็นได้ว่าขั้นตอนตั้งแต่เข้าตึกไปจนถึงนั่งรอในห้อง เราจะยังไม่ต้องให้ตรวจบัตรอะไรเลย
กระเป๋าที่นำมาให้แขวนไว้ที่ตะขอข้างโต๊ะ โต๊ะที่นี่เป็นโต๊ะนักเรียนที่กว้างพอใช้และมีร่องใส่ดินสอ ไม่มีช่องเก็บของใต้โต๊ะ ที่นั่งสบายดีไม่เหมือนโต๊ะเลกเชอร์แบบพับที่ชวนเมื่อย
เรื่องชวนอึ้งข้อแรกเลยก็คือ ป้ายคำเตือนที่ติดไว้หน้าห้อง ป้ายบอกเวลาสิ้นสุดการสอบ และการประกาศทางลำโพงระหว่างรอสอบเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด เราก็นั่งฟังไปแบบหูทวนลมอยู่มากกว่า 20 นาที แต่คิดว่าก็ไม่มีอะไรสำคัญหรอก
แต่แล้วก็เจอเรื่องที่ต้องอุทานในใจว่า “ฉิบ…” เมื่อผู้คุมแจกกระดาษคำตอบให้ฝนข้อมูลก่อน เพราะใบกระดาษคำตอบมีข้อความกำกับแต่ละช่องเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด!! ทั้งช่องกรอกชื่อเป็นฮันกึลและภาษาอังกฤษ กระทั่งคำถามเกี่ยวกับเพศ วันเดือนปีเกิด รหัสประจำตัวสอบ รหัสข้อสอบ ฯลฯ ด้านหน้า-ด้านหลัง รวมทั้งให้ฝนชื่อตัวเองตามวงกลมที่เป็นอักษรฮันกึล เรียกได้ว่างานเข้า อ่านออกแค่บางตัว แล้วชื่อไทยชั้นรับรองช่องฝนตัวฮันกึลไม่พอแน่ๆ

อย่ารอช้าที่จะแสดงความง่อยของตัวเองให้โลกรู้ เราส่งสัญญาณว่า help me pleaseeee เจ้าหน้าที่ประจำห้องสอบที่มีอยู่คนเดียวเลยต้องมาสาละวนช่วยเรากรอกก่อนอย่างลนลาน ก่อนจะค่อยปล่อยให้เราฝนในวงตามเลขที่เขากรอก แต่ก็ติดขัดเล็กน้อยเพราะเขาพูดได้แต่ภาษาเกาหลี เราเลยใช้ภาษามือคุยกันอย่างสนุกสนาน แงงง
ระหว่างกรอก เมื่อไปถึงตรงช่องที่ให้เลือกระหว่าง 남 กับ 여 (ชายหรือหญิง) ผู้คุมสอบชะงักไป แล้วหันมามองหน้าเราแบบแวบๆ เกิดเด๊ดแอร์ 1 วินาที เราเลยรีบบอกว่าไป “ยอจา” เขาก็พูดกลั้วขำกลับมาว่า อ่อๆ ขอบคุณค่ะ
ในใบสอบด้านหน้าตรงมุมซ้ายล่าง ข้อสอบเราให้คัดตามข้อความอักษรฮันกึลด้านบน และเซ็นชื่อกำกับที่ช่องขวา เดาว่าข้อความที่ให้คัดตามเป็นการรับรู้ข้อตกลงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการสอบ โชคดีที่พี่ข้าวสอนคัดฮันกึลมาอย่างดี ท่อนนี้เลยโชว์เดี่ยวได้ ซึ่งมันก็แค่ลอกตามข้อความแหละ แต่ทำได้ไวและแม่นหน่อย

ก่อนเริ่มสอบ ทุกคนต้องฝากมือถือไว้ในกระเป๋าช่องเก็บของที่มีเลขที่นั่งกำกับแต่ละช่อง ซึ่งผู้คุมสอบจะวางไว้หน้าห้องก่อนสอบแป๊บเดียว ผู้คุมสอบจะแจกซองเล็กๆ เพื่อให้เอาผ้าแอลกอฮอล์ในซองนั้นมาเช็ดให้ทั่วมือถือของเราเองก่อน แล้วเอาสติ๊กเกอร์เขียนชื่อตัวเองแปะลงไป ก่อนสอดมือถือลงไปในช่องที่ถูกต้อง
ก่อนเวลาสอบแค่แป๊บเดียว คนคุมสอบจะเข้ามาเช็กบัตรประจำตัวทีละโต๊ะ โดยระหว่างที่เขาเช็กบัตรของเรา เราต้องถอดหน้ากากอนามัยออกเพื่อให้เขาดูหน้า แล้วใส่กลับไปตามเดิมตลอดการสอบ
เราเอามาทั้งพาสปอร์ตและเอเลี่ยนการ์ด แต่สุดท้ายเขาก็ดูแค่เอเลี่ยนการ์ด เลยอยากแนะนำว่า ให้พกไปทั้งสองอย่าง แต่ให้เอาแค่เอเลี่ยนการ์ดมาวางไว้บนโต๊ะ พาสปอร์ตจะได้ไม่เกะกะถ้าสุดท้ายไม่ต้องใช้
มีนาฬิกาเรือนใหญ่ที่หน้าห้อง ปรับเวลาให้ตรงกับประกาศ หากเริ่มสอบช้า ผู้คุมสอบก็จะเขียนเวลาสิ้นสุดการสอบที่กระดานหน้าห้องแบบทดเวลาให้ เช่น ของเราเขียนว่า 12:10 น.
พอเข้าส่วนการสอบจริงๆ ค่อยโล่งอก เพราะคำสั่งและคำอธิบายทั้งหมดและจากลำโพงเป็นภาษาอังกฤษ
สำหรับรีวิวข้อสอบ เราคิดว่าคนคงเขียนไว้เยอะแล้ว เลยไม่มีอะไรจะเขียนมาก ที่จะติงสนามสอบนี้ก็คือรู้สึกว่าเสียงก้องจนบางทีฟังไม่ชัด ยิ่งเป็น Listening ข้อแรกๆ ที่เป็นการถาม-ตอบแบบสั้นๆ พอฟังคำถามไม่ชัดก็เรียกได้ว่าหลุดไปเลย จะเดาจากบริบทแบบบทสนทนายาวๆ ก็ไม่ได้
แถมบางช่วงพีกมาก เสียงแอร์ดัง “วี้~” อยู่สักนาทีนึง สงสารคนที่อยู่ใกล้แอร์มาก
สำหรับวันนี้ก็จบแค่นี้สำหรับประสบการณ์มันๆ ของการสอบ TOEIC ในประเทศเกาหลีที่เรียกได้ว่ามันซี้ดดด มาก
- ค่าสอบแบบสมัครปกติ 44,500 วอน หรือประมาณ 1,200 บาท หากสมัครรอบพิเศษ (คือสมัครกระชั้นชิดกับวันสอบ) ราคาจะเพิ่มมาอีกราวๆ 5,000 วอน (โปรดศึกษาข้อมูลที่แน่นอนในเว็บไซต์ YBM)
- ผลสอบจะออกมาประมาณ 10 วันหลังสอบ คิดว่านานกว่าที่ไทยเยอะเลยนะ
- ดูไกด์ไลน์เตรียมอุปกรณ์ก่อนสอบได้ที่นี่ https://exam.ybmnet.co.kr/toeic/guide/guide_dday.asp
ค่าสอบถูกกว่าที่ไทยอีกนะครับ
ถูกใจLiked by 1 person
จริงด้วยค่ะ เพิ่งสังเกต ไม่ได้สอบมานาน
ถูกใจถูกใจ
สำหรับคนที่มาอ่านเพราะมีความจำเป็นต้องสอบ ไม่ต้องกลัวนะ ให้ขอความช่วยเหลือจากคนคุมสอบ ภาษาเกาหลีที่เขียนมีแค่ชื่อเรากับสถานที่สอบ ที่เหลือจะเป็นเพศ วันเกิด ชุดข้อสอบ แล้วก็เลขประจำตัวสอบ(ขวาบน)
ถูกใจLiked by 1 person
thanks
ถูกใจถูกใจ